top of page

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน

เนื่องจากส่วนตัวผู้เขียนมีความสนใจด้านวิศวกรรมพลังงาน (แต่มาทำด้านโปรแกรมบัญชี ) บทความนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับ โปรแกรมบัญชี AccCloud.co สักเท่าไหร่ เป็นความสนใจส่วนตัวค่อนข้างจะน่าสนใจจึงมาแชร์ให้ผู้อ่านได้ทราบกันในบทความนี้ครับ

สภาวะโลกร้อน (Global Warming) โดยความหมายในตัวของมันเองคือการที่อุณหภูมิของอากาศใกล้ผิวโลกและ อุณหภูมิน้ำใน มหาสมุทรเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิของผิวโลกสูงขึ้นโดยเฉลี่ยเกือบ 1 องศาเซลเซียส และได้มีการพยากรณ์ไว้โดยแบบจำลองสภาพภูมิอากาศว่าอีก 90-100 ปีข้างหน้าอุณหภูมิของผิวโลกอาจสูงขึ้นไปถึง 1.1-6.4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ทุกๆ องศาที่เพิ่มขึ้น ย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเจ็บปวดของมนุษยโลกทุกคน ในความเป็นจริงเหตุการณ์ โลกร้อนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีสาเหตุหลักๆจาก ปัจจัยดังนี้คือ ถึงการผันแปรของวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ การระเบิดของภูเขาไฟ และ การสะสมของแก๊สเรือนกระจกในบรรยากาศ ปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว โดยธรรมชาติแก๊สเรือนกระจกที่เกิดขึ้นนั้นจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 33 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าโลกไม่มี สภาวะนี้มนุษย์ก็จะอยู่อาศัยไม่ได้เช่นกันหากแต่ ในปัจจุบันมนุษย์ไปเพิ่มความหนาแน่นของแก๊สเรือนกระจก จนเกิดปัญหาการเร่งตัวของสภาวะโลกร้อนให้เร็วยิ่งขึ้น แก๊สเรือนกระจกบนโลกที่เรารู้จักกันดีก็คือไอน้ำบนชั้นบรรยากาศ (มีผล 30-60%) คาร์บอนไดออกไซด์ (9-26%) มีเทน (4-9%) และ โอโซน (3-7%) ตามลำดับ โดยที่ มีเทนจะผลกระทบต่อสภาวะเรือนกระจกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ความหนาแน่นน้อยกว่า ถึง หนึ่งในสี่ ดังนั้น สาเหตการเกิดสภาวะโลกร้อนโดยหลักๆแล้วจึงมาจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ นี่เอง อย่างไรก็ตามความเข้มของปริมาณ CO2 ที่เจือปนในบรรยากาศปัจจุบันมีประมาณ 383 ส่วนในล้านส่วนโดยปริมาตร (ppm) และจะยังคงสูงขึ้นอีกในอนาคตเนื่องจากการเผาผลาญพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล และ การใช้พลังงานของมนุษย์ คราวนี้เราลองมาคิดถึงผลกระทบต่อเนื่องทางธรรมชาติก่อน คือ เมื่อโลกร้อนขึ้น จะมีปริมาณไอน้ำบระเหยมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อไอน้ำระเหยบนชั้นบรรยากาศมากขึ้น อุณหภูมิโลกก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นไอน้ำก็จะระเหยเร็วขึ้นไปอีก ไปเรื่อยๆ จากนั้นเราลองมาดูที่ขั้วโลกกันบ้าง เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเริ่มละลาย ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวแถบไซบีเรีย จะมีการปลดปล่อยแก๊ส มีเทน และ คาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก จากชั้นดินนี้ ผลคือจะทำให้อุณหภูมิโลกสูงยิ่งขึ้นไปอีก แล้วน้ำแข็งขั้วโลก ก็จะละลายมากยิ่งขึ้น แก๊สเหล่านี้ก็จะถูกปลดปล่อยเป็นปริมาณมากยิ่งขึ้น และ ขยายวงกว้างยิ่งขึ้น กล่าวคือโดยธรรมชาติแล้วสภาวะโลกร้อนจะไม่ได้เกิดในอัตราคงที่หากต่จะเกิดในอัตราที่รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ

เราลองมาสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราทุกวันนี้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อากาศร้อนระอุมากขึ้น และในทุกๆปีเราจะได้ข่าวพยากรณ์อากาศว่าปีนี้จะร้อนที่สุดในรอบ 10 ปี หรือมีพายุฤดูร้อนเกิดบ่อยขึ้นเนื่องจากการผันแปรของอุณหภูมิโลก ข่าวพายุไต้ฝุ่นที่สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน ถี่มากยิ่งขึ้น นี้เป็นแค่ผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับที่เราจะต้องเผชิญเท่านั้นเอง สภาวะสุดโต่ง เช่น บางพื้นที่จะเกิดความแห้งแล้งจัด บางพื้นที่น้ำท่วมอย่างรุนแรง บางพื้นที่อากาศ หนาวเหน็บอย่างไม่เคยมีมาก่อน การลดลงของผลผลิตทางการเกษตร การเกิดโรคภัยไข้เจ็บชนิดใหม่ๆขึ้น การสูญพันธ์ของสิ่งมีชีวิตบางสายพันธ์ การอพยพย้ายถิ่นฐานของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากน้ำทะเลเข้าท่วม (เช่น พื้นที่ริมฝั่งทะเล หรือพื้นที่ราบต่ำอื่นๆ ) และ การถดถอยของสภาพเศรษฐกิจโลก

ปรากฏการณ์โลกร้อน เราอาจไม่สามารถยับยั้งมันได้ หากแต่เราช่วยกันชะลอผลกระทบจากการเกิดสภาวะโลกร้อนให้ช้าลงไปได้ โดยการลดการใช้พลังงานลง (ลดการใช้พลังงาน = ลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ลง ) นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายท่านลง ยังช่วยรักษาสภาวะแวดล้อมโลกให้อยู่กับเราได้นานๆอีกเช่นกันครับ

Featured Posts
กรุณากลับมาใหม่ภายหลัง
หลังจากที่โพสต์เผยแพร่แล้ว คุณจะเห็นข้อมูลที่นี่
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page